คันคอ แบบไหน สัญญาณเตือน อันตรายต่อสุขภาพ
On December 11, 2021 by beautyคันคอ หรือ Itchy Throat เป็นหนึ่งในอาการเบื้องต้นของปัญหาสุขภาพที่สำคัญ ทุกคนจำเป็นต้องสังเกตตนเอง เนื่องจากหลังที่มีอาการคันคอแล้ว มักจะเกิดโรคตามมานั่นเอง
อาการคันคอที่พบได้บ่อยที่สุด
คันคอ ลักษณะในการคัน ผู้ป่วยจะมีความรู้สึกระคายเคืองที่ลำคอด้านในและต้องไอ หรือกระแอมตลอด เพื่อบรรเทาอาการ ยิ่งผู้ป่วยที่มีอาการหนักก็จะเกิดการอักเสบที่ลำคอได้จากการไอรุนแรง ซึ่งอาการคันคอที่นานมากกว่า 10 วัน ให้สังเกตอาการเบื้องต้น ดังนี้
- หายใจเข้า–ออก มีเสียงหอบเหนื่อย
- มีอาการหายใจเข้า–ออกลำบาก หรือเหมือนหายใจไม่เต็มอิ่ม
- มีอาการลมพิษเกิดขึ้น
- เจ็บคอและมีอาการปวดหัวร่วมด้วย
- ใบหน้าบวมขึ้นจากเดิม
- กลืนน้ำลาย หรืออาหารต่าง ๆ แล้วเจ็บที่ลำคอ
หากมีอาการคันคอและนานเกิน 10 วัน พร้อมยังมีอาการข้างต้นร่วมด้วย ให้ผู้ป่วยรีบเข้าพบแพทย์เพื่อทำการตรวจสอบอย่างละเอียดทันที เนื่องจากอาจจะมีภาวะแทรกซ้อนอย่างอื่นเกิดขึ้นได้ เช่น โรคภูมิแพ้, โรคไข้หวัด และไซนัสอักเสบ เป็นต้น
สาเหตุที่ทำให้เกิดอาการคันคอเบื้องต้น
ส่วนใหญ่ที่แพทย์จะวินิจฉัยและตรวจพบ จากสาเหตุที่บอกต่อไปนี้
- อาการแพ้บางอย่าง ซึ่งเป็นปัญหาสุขภาพของแต่ละคน เช่น การแพ้ฝุ่นละออง เกสรดอกไม้ หรือเชื้อราต่าง ๆ สามารถทำให้เกิดอาการคันคอได้ ทว่าหากเป็นการคันที่มาจากการแพ้ อาการมักจะไม่รุนแรง สามารถหลีกเลี่ยงสิ่งของที่แพ้เพื่อลดอาการได้
- โรคไข้ละอองฟอง ซึ่งปัจจุบันจะเรียกกันว่าโรคจมูกอักเสบจากภูมิแพ้ ซึ่งเกิดจากร่างกายของคนเรามีระบบภูมิคุ้มกันในการป้องกันโรค ทว่าระบบภูมิคุ้มกันทำงานไว ตอบสนองสารที่ก่ออาการแพ้ได้รวดเร็ว จนมีอาการที่แสดงออกมารุนแรง
- การรับควันหรือสารพิษจากการสูดดม ด้วยความที่ระบบทางเดินหายใจเชื่อมต่อกับลำคอ ดังนั้นหากดมสารพิษเข้าไป ลำคอก็จะเกิดอาการคันขึ้นมาได้นั่นเอง
- โรคไข้หวัด ซึ่งการคันคอแทบจะเป็นอาการยอดนิยมก่อนที่จะตรวจพบเลยว่าตนเองเป็นไข้หวัด นั่นเป็นเพราะร่างกายได้รับการติดเชื้อไวรัสหรือแบคทีเรียของไข้หวัดมา
- โรคไซนัสโพรงจมูกอักเสบ อย่างที่กล่าวไปจมูกกับลำคอเชื่อมต่อกันได้ หากจมูกมีการอักสบ คอก็จะได้รับผลกระทบได้ ซึ่งหากเป็นอาการคันคอที่เกิดจากไซนัสก็มักจะมีน้ำมูก ลักษณะเป็นสีเขียวร่วมด้วย
แนวทางในการวินิจฉัยของแพทย์ เพื่อการรักษา
สำหรับการเข้ารับการรักษา แน่นอน! เริ่มต้นแพทย์จะเป็นคนซักประวัติต่าง ๆ ก่อน หลังจากที่สอบถามข้อมูลเบื้องต้นก็จะแยกตรวจแบบละเอียด 2 วิธีด้วยกัน คือ
- การตรวจหาสิ่งของที่แพ้ ด้วยการทดสอบภูมิแพ้ก่อน
- การตรวจเลือด หรือการนำของเหลวที่ลำคอไปตรวจ เพื่อหาเชื้อไวรัสหรือแบคทีเรียอย่างละเอียด
หลังจากแพทย์ทราบที่มาของอาการคันคอแล้ว ในการวางแผนการรักษาคนไข้แต่ละเคสนั้น จะต้องแยกออกเป็นตามอาการและสาเหตุ ดังนี้
- เกิดจากภูมิแพ้ แพทย์จะทำการสั่งจ่ายยาแก้แพ้ไป และแนะนำให้หลีกเลี่ยงสารต่าง ๆ ที่ไปกระตุ้นให้เกิดอาการระคายเคือง หรือกระตุ้นให้ภูมิแพ้กำเริบ
- เกิดจากไข้หวัด แพทย์จะสั่งจ่ายไปตามอาการที่คนไข้เป็น เพราะโดยส่วนใหญ่ หากเป็นไข้หวัดจะไม่ได้มีแค่อาการคันคออย่างเดียว รวมไปถึงบางรายอาจจะต้องมีการล้างจมูกเพื่อลดเสมหะ ช่วยให้หายใจได้ง่ายขึ้น
- เกิดจากโรคไซนัสอักเสบ ในกลุ่มของโรคดังกล่าวแพทย์จะจ่ายเป็นยาปฏิชีวนะ ร่วมกับยาตามอาการไปให้คนไข้
แนวทางในการป้องกันตนเอง ให้ห่างไกลอาการคันคอ
หลักการป้องกันที่ต้องจำให้ขึ้นใจ จะเป็นการหลีกเลี่ยงสารต่าง ๆ ที่ก่อให้เกิดอาการแพ้และการรับเชื้อมา โดยมีแนวทางการป้องกัน ดังนี้
- นอนพักผ่อนให้เพียงพอ ระบบภูมิคุ้มกันทำงานเต็มที่
- ดื่มน้ำให้มาก ๆ ระหว่างวัน เป็นการรักษาสมดุลของร่างกาย
- กลั้วคอเป็นประจำด้วยน้ำยาที่ส่วนผสมของยาฆ่าเชื้อ หรือจะใช้ยาอมก็ได้
- เน้นการทานอาการตามหลัก กินร้อน ช้อนกลาง ไม่ใช้สิ่งของต่าง ๆ ร่วมกัน
- ขยันล้างมือให้บ่อยครั้ง เพราะมือเป็นอวัยวะที่รับเชื้อได้ง่ายที่สุด
- ล้างจมูกเป็นประจำ ไม่จำเป็นต้องแพทย์สั่งก็ได้ เพราะบางวันมีฝุ่นละอองจำนวนมาก สามารถล้างเองได้ที่บ้านทันที
- ออกกำลังกายทุกวัน จะช่วยเสริมภูมิคุ้มกันได้อีกทางหนึ่ง
สุดท้ายการดูแลตนเองจะเป็นผลดีในระยะยาว จะช่วยยังป้องกันโรคอื่น ๆ ที่อาจจะตามมาได้มากมายอีกด้วย พร้อมทำให้อาการของโรคบรรเทาลงได้อย่างรวดเร็ว
ขอบคุณข้อมูลจาก rattinanhospital.com